การประกาศรับสมัคร ผอ.ฝ่ายพัฒนามูลค่าเพิ่มและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ แสดงให้เห็นว่า ภารกิจการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลงานของกองทุนสื่อฯ มีความคืบหน้าชัดเจน Media Trust Thailand สัมภาษณ์พิเศษ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่ออัพเดทภารกิจที่ต้องถือว่าเป็นการเปิดแนวรุกที่ท้าทาย
ทรัพย์สินทางปัญญาของกองทุนสื่อฯ ผลงานที่ทำมาตั้งแต่ปี 2561 เรามีหลายชิ้นและผลงานบางชิ้นทำครั้งเดียว แต่ไม่ได้ตายไป เช่น ภาพยนตร์ ในปี 2566 ที่ผ่านมาเราก็ริเริ่มที่จะเอาผลงานของเราที่ผลิตเอง หรือผู้รับทุนผลิตไปจดลิขสิทธิ์ ตอนนี้เรามีชิ้นงานที่จดลิขสิทธิ์แล้วประมาณ 40 ชิ้นงาน และกำลังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เด่นๆอย่าง เช่น ละครซีรีย์เรื่องนักสืบสายรุ้ง ภาพยนตร์เรื่อง A time To Fly ซึ่งเพิ่งไปได้รางวัลมาจากประเทศจีน เป็นรางวัล ช้างทองเชิดชูเกียรติภาพยนตร์ดีเด่น ในงานสัปดาห์ภาพยนตร์นานาชาติล้านช้าง – แม่โขง (Golden Elephant Honor for Outstanding Film to the 5 th Lancang – Mekong International Film week) ระหว่างวันที่ 22-26 ธันวาคม 2566 ณ นครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ตอนนี้กำลังจะไปฉายในงานเทศกาลที่ญี่ปุ่น และส่งประกวดอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ยังจะมีภาพยนตร์ที่จะเปิดตัวในปีนี้ก็คือ พระร่วง ซึ่งคิดว่า ไม่น่าจะผิดหวังเพราะผ่านการตกผลึก ทีมผู้สร้าง ผู้กำกับ ถือว่า มีฝีมือ ตั้งใจทำงานกันเต็มที่ เรื่องโขนภาพยนตร์ จริงๆ ก็ยังไม่ได้เอามาทำให้เกิดมูลค่าทางการตลาดอย่างเป็นจริงเป็นจัง และยังมีงานของผู้รับทุนอีกหลายชิ้นงานที่อยู่ระหว่างการผลิต เช่น ละครเรื่องมนต์รักกันตรึม ที่นำเสนอศิลปะอีสานจากบุรีรัมย์ ปันหยี I Sea You ภาพยนตร์ที่เนื้อหาส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวและเรื่องราวของความรัก
จะเห็นได้ว่า เราต้องการเอาผลงานเหล่านี้มาเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ เราก็เล็งไปที่การผลิต Content หรือ ส่งเสริมให้ผลิต Content แล้วส่งออกไปขายในต่างประเทศ ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง ฉายเป็นภาพยนตร์ ขายลิขสิทธิ์ การขายให้ Platform ในระบบ Live Stemming หรือ พวก Netflix เป็นต้น ปีที่แล้วก็เลยมีการขอปรับโครงสร้างส่วนงานของสำนักงาน เพิ่มฝ่ายพัฒนามูลค่าเพิ่มและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ ซึ่งบอร์ดให้ความเห็นชอบได้ประกาศเป็นข้อบังคับว่าด้วยการแบ่งส่วนงานของกองทุนสื่อฯ แล้ว ภายใต้กรอบอัตรากำลังเดิมเราสามารถที่จะรับตำแหน่ง ผอ.ฝ่ายนี้ได้ วันนี้กองทุนสื่อฯ รุกไปอีกขั้น คือต้องการมืออาชีพที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของธุรกิจ Content เข้าใจเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา สามารถดีลกับตลาดในต่างประเทศได้ มีความรู้เรื่องภาพยนตร์ อุตสาหกรรมบันเทิง ภาพยนตร์ แบบไหนตลาดเป็นอย่างไร เป็นอีกขั้นหนึ่ง ขั้นต่อไปกองทุนสื่อฯ หวังว่าจะเป็น Content Provider ที่เข้มแข็ง จะเป็นหน่วยงานกลางที่ส่งเสริมผู้ผลิต Content ในประเทศไทยและนำ Content นั้นไปขายต่างประเทศ ขายเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้คนไม่ใช่รู้จักคนไทย มาเที่ยวเมืองไทย แต่มาเที่ยวอย่างเคารพไม่ใช้มาปู้ยี่ปู้ยำ มาเที่ยวอย่างนักท่องเที่ยวคุณภาพ มาซึมซับกับสิ่งที่เป็นวัฒนธรรม
หนึ่ง เป็นต้นแบบของการสร้างภาพยนตร์ มาจากการที่เนื้อเรื่อง BASE ON TRUE STORY ซึ่งจริงๆ แล้ว เรื่องราวที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมีเยอะมาก และภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถนำเสนอได้ดีภายใต้ต้นทุนที่มีอยู่ ซึ่งจะเป็นการจุดประกายว่า การสร้างภาพยนตร์เราไม่ต้องกังวลเรื่องทุนสร้างมาก
การสนับสนุนทุนของกองทุนฯ แม้จะมีข้อจำกัดบ้าง แต่เราได้คนมีฝีมือมาทำงานเยอะ และกล้ายืนยันว่าถ้าข้อเสนอดีจริง คุณได้ทุนสนับสนุนแน่นอน
คือหนังไปง่ายที่สุด ซีรี่ย์ ละคร เราก็ทำส่วนอื่นๆ มุมของเรา Soft Power ทุกรูปแบบในมุมของกองทุนสื่อฯ ก็คือ การใช้สื่อไปสร้างให้สิ่งที่เป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมได้เป็นที่รู้จัก เพราะฉะนั้นเวลาเราจะไปใช้ Soft Power ในการส่งเสริมอาหารไทย ต้องไปแฝงไว้ในรูปของภาพยนตร์ ละคร ไม่ใช่เราจะไปจัดกิจกรรมเพื่อขายอาหาร อาจจะเป็น คอนเสิร์ต ละครสั้น ละครซีรีย์ ภาพยนตร์
อำนาจต่อรองน้อยเพราะอดีตที่ผ่านมา ภาคเอกชนก็อยู่ในลักษณะที่ต่างคนต่างทำ ขาดการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐ อันนี้ดู Pain Point ก่อน สิ่งที่เป็นประเด็นปัญหาในช่วงที่ผ่านมา การส่งเสริมของภาครัฐเพิ่งจะตื่นตัวในระยะหลังๆ เพราะฉะนั้นเวลาเอาไปขาย งานของเราก็ยังมีชิ้นงานไม่มากให้เขาเลือก พอเขาปฏิเสธเราก็ไม่มีตัวอื่นขายแล้ว แต่วันนี้เราคิดทำทั้งกระบวนการ คือ ส่งเสริมที่จะให้มีการสร้างวงจรของการผลิตสื่อสร้างสรรค์ หรืออุตสาหกรรมบันเทิงตั้งแต่เริ่มต้นด้วยงาน Creative งานเขียนบท งานพัฒนาผู้กำกับที่มีความสามารถหลากหลาย มีความถนัดที่แตกต่างกัน งาน Production ของเราต้องถือว่าเก่งพอสมควรอยู่แล้ว พวกงาน CG คนไทยทำได้ดี แต่งานที่ยังเป็นจุดอ่อนคืองานจัดจำหน่าย ซึ่งถ้ารัฐหลายหน่วยงานมาช่วยกัน เอกชนไม่ต้องมาแบกภาระมากจนเกินไป เทศกาลภาพยนตร์เราควรมีการคัดเลือกภาพยนตร์ แล้วสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เขาจะเดินทางไป ก็จะทำให้ Content ของไทยมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นเรื่อยๆ
เราชัดเจนว่า เราทำไม่ใช่เอาเงินอย่างเดียว แน่นอนว่าเนื้อหาต้องเชิงบวก ซึ่งเราคิดว่า การทำเนื้อหาเชิงบวกไม่ใช่เป็นข้อจำกัด เช่น ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ นำเสนอเรื่องราวของผู้คนที่สามารถมาสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งหลายประเทศก็ทำและประสบความสำเร็จ เราก็ทำหน้าที่ภายใต้ขอบเขตของเรา
ถูกต้อง เราก็ตั้งเป้าอย่างน้อยภาพยนตร์ที่กองทุนสื่อฯ มีส่วนร่วมสนับสนุน ทั้งการให้ทุน 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ การร่วมผลิต หรือ ร่วมผลิตแบบที่เราไม่ต้องให้ทุนเยอะ อย่างน้อยปีละ 10 เรื่อง เราก็มาบริหารจัดการเพื่อจะเอาไปเผยแพร่ต่างประเทศ
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |