กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดแถลงข่าวเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ประจำปี 2567 ไป เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2566 มุ่งหวังให้ผู้รับทุนสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคม และจะเปิดรับข้อเสนอตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2566 เวลา 16.30 น. โดยวันพรุ่งนี้ (26 กันยายน) จะมีการจัดอบรมการเขียนข้อเสนอโครงการให้กับผู้ขอรับการสนับสนุน Media Trust Thailand สัมภาษณ์พิเศษ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เชื่อว่าสาระจากบทสัมภาษณ์ จะเป็นข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของกองทุนสื่อฯ
แกต่างระดับหนึ่งไม่มาก ไม่ถึงกับแตกต่างมาก แต่ก็ไม่เหมือนเดิม แนวคิดการจัดสรรทุนปีนี้ ต้องถือว่าเรามีความแจ่มชัด มีการตกผลึกที่ชัดเจนมากเทียบกับปีก่อน ๆ เรายังสะเปะสะปะ อย่างทุนเชิงยุทธศาสตร์เรายังไม่ได้ฟันธงลงไปว่า เรามุ่งผลลัพธ์ ผลผลิตของผู้รับทุนที่จะออกมาสู่สังคมอย่างแท้จริง แล้วประเด็นก็ค่อนข้างหลากหลาย แน่นอนทุกประเด็นมีความสำคัญ แต่ในแง่การนำเสนอก็ต้องเลือกเรื่องเหมือนกันว่า ปีนี้จะเน้นธีมอะไร เพราะฉะนั้นปีนี้ทุนประเภทประเด็นเชิงยุทธศาสตร์เราจะกระชับมากขึ้น
ส่วนทุนเปิดรับทั่วไป เป็นการตอกย้ำปรัชญาของเราว่า ทุนเปิดรับทั่วไป เราต้องการเปิดทุนให้กับคนที่ต้องการโอกาสขอทุน เปิดพื้นที่ให้กับคนที่ต้องการมาเรียนรู้พัฒนาตนเอง นั่นหมายความว่า คนที่เป็นผู้ผลิตหน้าใหม่ ๆ คนที่อยากลองฝีมือ ลองวิชา อบรมกับเราแล้วอยากจะเริ่มทำสื่อ เราอยากจะให้ทุนประเภทเปิดรับทั่วไป เป็นพื้นที่ของคนกลุ่มนี้ ในเมื่อปรัชญาของมันคือ การสร้างโอกาสเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งทุน ขนาดของทุนก็ไม่ควรเป็นโครงการขนาดใหญ่เพราะความเสี่ยงก็ค่อนข้างมาก
ทุนเชิงยุทธศาสตร์ คนหน้าใหม่ ๆ ก็ยังแบ่งเป็น 4 กลุ่มเหมือนเดิม อันนี้ชัดว่า เวลาทำสื่อต้องตอบให้ได้ว่า ทำให้ใคร ใครเป็นคนดู กลุ่มเป้าหมายปลายทางของการสร้างสื่อชิ้นนี้คืออะไร ไม่ว่าจะเด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการด้อยโอกาส และประชาชนทั่วไป
ไม่ควรจะมี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่กรรมการ เราก็ย้ำไปว่า เราต้องการให้ทุนนี้กระจายตัวไปตามกลุ่มคนต่าง ๆ โรงเรียนในชนบท หมู่บ้านชุมชน คนทำงานอิสระ ดังนั้นมืออาชีพอย่าเอามาแย่งทุนกลุ่มนี้เลย เดิมไม่ชัดอาจมีบริษัทเข้ามา ปีนี้เราย้ำอยู่ตลอด คอยดูว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร
เพิ่มความเข้มข้นมาก เพราะการกำหนดมาเหลือ 6 ประเด็นถือว่าตกผลึกมาก เริ่มแต่ประเด็นที่หนึ่ง ทำไมเราเอาประเด็นเรื่องการใช้สื่อเพื่อสร้างการยอมรับความหลากหลายในสังคม อันนี้ลึกซึ้งเพราะทุกวันนี้เราเดินไปสู่สังคมที่แตกแยก แบ่งเป็นฝักฝ่าย ไม่ยอมรับซึ่งกันและหันเห็นต่างเป็นศัตรู เป็นอีกฝั่งอีกฝ่าย ยากมากที่จะเห็นสันติสุขในสังคม จริง ๆ แล้วความเห็นต่างอยู่ร่วมกันได้ ถ้าเคารพในสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเอง และของคนอื่น ท่ามกลางสภาพสังคมที่มีความคิดแตกแยก เราก็คิดว่าควรมีคนที่จะลุกขึ้นมาเตือนสติ ชี้ให้เห็นความงามของพหุวัฒนธรรมหรือพหุสังคม ชี้ให้เห็นการอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ประเด็นที่ 2 เป็นประเด็นที่เป็นภารกิจในการรับมือสื่อร้าย สื่อไม่ดี ไม่ว่าจะเป็น Fake News Hate Speech Bully ภัยไซเบอร์ ปีที่แล้วเราแยกเรื่องนี้เป็น 2 ประเด็น แต่มาปีนี้เรา Group รวมเลย สื่อที่จะสามารถรับมือ Dis information Mal-information Mis- information เราให้มาอยู่ในประเด็นนี้ จะทำเป็นหนังสั้น Tik-tok, YouTuber เพื่อที่จะรับมือกับภัยออนไลน์ทั้งหลาย จริง ๆ ก็เป็นการกำหนดประเด็นที่ล้อกับภัยทางสังคมที่เกิดขึ้นอยู่
ประเด็นที่ 3 พูดกันเยอะ และปีที่แล้วเราก็ทำ คือ การใช้สื่อเพื่อสร้างเศรษฐกิจจากทุนวัฒนธรรม หรือ Soft Power ปีนี้เราเปิดให้เป็นประเด็นสำคัญ นี่คือ 3 ประเด็นหลัก
ส่วนประเด็นที่ 4-5-6 นอกจากได้ Content แล้วเราอยากได้รูปแบบของสื่อด้วย เพราะฉะนั้น ประเด็นที่ 4 เราอยากได้รูปแบบรายการ จะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หรือออนไลน์ ไปคิดมา แต่เราอยากได้ Program for child ประเด็นที่ 5 เราอยากทำซีรีย์ ละครชุด อย่างน้อยกองทุนควรมีทุกปี เป็นละครชุดส่งเสริมความงดงาม จริยธรรมในสังคม ส่วนประเด็นที่ 6 เราต้องการทำภาพยนตร์ ซึ่งเราทำมา 2-3 ปีเห็นพลังของมัน ตั้งแต่ หนุมาน White Monkey , A time to Fly ปลายปีนี้เราก็จะเปิดตัวหนัง พระร่วง ราชาผู้ทรงธรรม ทั้ง 6 ประเด็น เราตกผลึก แจ่มชัด หวังผลลัพธ์ในกลุ่มเชิงยุทธศาสตร์คาดหวังสูงมาก
ส่วนทุนประเภทที่ 3 เป็นทุนเชิงความร่วมมือกับหน่วยงานที่เราทำงานร่วมกันหลายหน่วยงานที่ช่วยกันทำงานเหนียวแน่น ร่วมหัวจมท้ายขับเคลื่อนด้วยกัน เราก็อยากให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของเราก็เปิดช่องให้เขามาขอทุน อันนี้เป็นสาระสำคัญของปี 67 ที่กำลังประกาศอยู่
ต่างประเทศทำไม่ได้น่ะ ต้อง 100 ล้านขึ้น แต่ประเทศไทย เราไม่มีเงิน ก็พยายามทำงานภายใต้ข้อจำกัด 3 ล้านยังทำหนังสั้นได้ 10 ล้านกว่าก็ทำหนังยาว A Time to fly ก็ 10 ล้านกว่า หนุมาน White Monkey ต้องใช้เทคนิคเยอะ เราก็เปิดทางให้เขาไปหาแหล่งทุนสนับสนุนจากที่อื่นมารวมได้ เราก็มีความยืดหยุ่น ดังนั้นเราไม่กำหนดวงเงิน ดูที่คุณภาพโครงการ
ต่างประเทศทำไม่ได้นะ ต้อง 100 ล้านขึ้น แต่ประเทศไทย เราไม่มีเงิน ก็พยายามทำงานภายใต้ข้อจำกัด 3 ล้านยังทำหนังสั้นได้ 10 ล้านกว่าก็ทำหนังยาว A Time to fly ก็ 10 ล้านกว่า หนุมาน White Monkey ต้องใช้เทคนิคเยอะ เราก็เปิดทางให้เขาไปหาแหล่งทุนสนับสนุนจากที่อื่นมารวมได้ เราก็มีความยืดหยุ่น ดังนั้นเราไม่กำหนดวงเงิน ดูที่คุณภาพโครงการ
เป็นหัวใจที่เรากำลังคิด ประการแรกคือ ร่วมมือกับ Platform ที่มีอยู่แล้ว Netflix เราก็กำลังเจรจาอยู่ ที่ผ่านมาเราก็เคยขายไปบางเรื่อง เช่น Animation เรื่อง เพื่อนรักใต้ทะเล ตอนนั้นเรายังไม่มีอำนาจต่อรอง แต่เราจะเริ่มเจรจาให้มีผลตอบแทนทางธุรกิจที่เป็นธรรม แล้วหนังเราต่อให้เนื้อหาไม่ใช่แนวตลาด เนื้อหาเป็นแนวสาระ แต่จริง ๆ หนังเราก็ฉายได้ มีความสนุก A time to Fly เนื้อหามีความสนุกด้วย เราเชื่อว่า Product เราขายได้ การขยับไป Platform ต่าง ๆ อย่าง หนุมาน White Monkey คนบอกหาดูไม่ได้เลย ทางทรูวิชั่นก็จะจัดฉายให้เรา 3 รอบ แล้วเราจะหาทางอื่นอีก ส่วนในระยะยาวเราคิดอยู่ว่า ทาง กสทช. อยากจะทำ National Streaming Platform เราก็คิดว่าจะไปสนับสนุนเรื่อง Content เราไม่ต้องลงทุนเรื่อง Infra-Structure อีก แต่ถ้าเขายังไม่ทำ เราก็ลอง Platform ที่มีอยู่หรือจะพัฒนาขึ้นมาเอง
ผมรับตำแหน่งปี 63 ทุนปี 63 ผมทำ 3 เดือน เข้ามา 1 ก.ค. ตอนนั้นทุนยังไม่ได้ออกประกาศ วิธีการของเราทำแบบวิธีพิจารณางบประมาณ ถ้างบประมาณ 3 เดือนทำได้ เราก็ทำได้ เราองค์กรเล็กนิดเดียวงบ 500 ล้าน เทียบกับงบประมาณแผ่นดิน 3 ล้านล้าน ทำไมเขาทำได้ เข้าไปครั้งแรก ชงประกาศเข้าบอร์ดเลย ซึ่งสาระไม่ต่างจากปีเก่ามากนักอิงปีที่ผ่านมาแล้วปรับนิดหน่อย พอบอร์ดอนุมัติ เราทำไทม์ไลน์ ปีนั้นเป็นปีแรกและเป็นปีเดียวที่ประกาศขึ้นอยู่บนออนไลน์แค่ 15 วัน เพราะถ้าประกาศนานจะไม่สามารถอนุมัติทุนได้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นเราประชาสัมพันธ์อย่างหนัก คนรับรู้ทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นปีที่คนขอทุนมากที่สุด 1,600 กว่าโครงการมูลค่า 5,700 ล้าน และเราสามารถสร้างกระบวนการกลั่นกรองพิจารณาเสร็จก่อน 30 กันยายน เป็นปีที่ท้าท้ายมาก
การใช้จ่ายงบประมาณ ปี 63 สอบตก แต่เนื่องจากเราอยู่ในไตรมาสสุดท้าย เราต้องรับผิดชอบ ดังนั้นเราสอบตกไม่ได้ ผลประเมินเบิกจ่ายจาก 1 พรวดขึ้น คะแนนประเมินรวมจาก 3.6 ขึ้นเป็น 4.7 หลังจากนั้นก็วางไทม์ไลน์ให้ชัดเจน และทุกอย่างเป็นมติบอร์ดหมด ดังนั้นวันหนึ่งเราจะอยู่ต่อหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น เพราะหลักถูก SET ไว้หมดแล้ว
คนรู้จักเรามากขึ้น คนที่สงสัย มีข้อกังขาในกระบวนการให้ทุน วันนี้ลดลง เพราะเราเชื่อว่า เราเปิดเผยทุกกระบวนการ อย่างปีที่แล้ว หลังประกาศทุน มีคนร้องขอดูข้อมูล 17 ราย เราทำหนังสือเชิญมาสำนักงาน ให้ดูทั้งหมด ก็ไม่ได้ติดใจ การที่คนรู้จักมากขึ้น ก็คาดหวังเรามากขึ้นอยากให้กองทุนทำอะไรในเสกลที่ใหญ่ขึ้น เช่นเราเชิญนักเขียนบทเกาหลีมาอบรมนักเขียนไทย คนที่เข้าร่วมฟังเป็นนักเขียนบทแนวหน้าของประเทศทั้งนั้นเลย เขาเข้าเพราะเขาไม่ทำตัวเป็นน้ำชาล้นถ้วย เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความคิดของเราคืออยากไปจัดให้กับคนที่สนใจในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น ต่อไปเมื่อ Content ขายได้ ก็จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนทำ Content ซึ่งความสำเร็จจะเป็นเรื่องของความร่วมมือระหว่างผู้รับทุนและกองทุนฯ เราไม่ได้ถือสิทธิ์อยู่ฝ่ายเดียว
ดังนั้นในปีนี้เรามีการปรับโครงสร้างภายในสำนักงานกองทุนใหม่จาก 8 ฝ่ายเป็น 9 ฝ่าย เราเพิ่มส่วนงาน ฝ่ายพัฒนามูลค่าเพิ่มและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ เพราะเราต้องการให้การทำงานของกองทุนครบ จบทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ หน้าที่ของฝ่ายนี้คือ เอา Content ที่เรามีอยู่ไปขายไปเผยแพร่ให้คนเข้าถึงและใช้ประโยชน์
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |