แถลงนโยบายรัฐบาลเศรษฐา 1 สมาชิกรัฐสภาพูดอะไร กับ นโยบาย Soft Power

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันแรก ไปเมื่อวานนี้ ( 11 กันยายน 2566 ) เรื่องราวที่คนทำสื่อ ติดตามเกาะติดคือ นโยบายเรื่อง Soft Power เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์  เมื่อวานนี้ในที่ประชุมรัฐสภาอภิปรายเรื่องนี้กันอย่างไร เราสรุปประเด็นสำคัญมาให้ทราบ ควรค่าแก่การไล่นิ้วอ่านโดยพลัน 

เริ่มแรกหนีไม่พ้นต้องเปิดเรื่องด้วยการแถลงนโยบายเรื่องนี้ของนายกรัฐมนตรี

“รัฐบาลนี้ยังมีนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศเพื่อยกระดับและพัฒนาความสามารถด้านความรู้ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและพัฒนาต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรมและส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำมาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้รัฐบาลจะสร้างงานสร้างรายได้ผ่านการส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ทักษะ Soft Power” 

 
ความหลากหลายต้องส่งเสริม

วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์  ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย  อภิปรายประเด็นปัญหาตามแนวชายแดน โดยหนึ่งในปัญหาคือ การล้มละลายของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธ์ เสี่ยงต่อการถูกลืม อยากให้รัฐบาลเข้าไปสนับสนุนส่งเสริมเพื่อได้เห็นวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ปรากฏต่อสายตาโลก การสร้าง Soft Power จากกลุ่มชายแดนจะช่วยนำเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวลงสู่ชุมชน

อามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส พรรคพลังประชารัฐ   อภิปรายปัญหาความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุ การรณรงค์ของกลุ่มเยาวชนเรื่องการแต่งกายชุดมลายูเพื่อรักษาอัตลักษณ์ของชาวมาลายูปัตตานี ทั้ง ๆที่เป็น Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่แต่กลับถูกดำเนินคดีจากภาครัฐ 

 
สว.เสนอแนวทางพัฒนา

สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ สมาชิกวุฒิสภา  อภิปรายนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft power ว่า การนำเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาเป็นนโยบายจริงจังของรัฐบาลจะสามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มหาศาล โดยมีข้อแนะนำ ใน 2 ระดับ คือ ระดับชุมชน ถอดบทเรียนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ซึ่งได้ดำเนินการส่งเสริม 2 แนวทาง คือ 1.ผลิตภัณฑ์ อาหาร ผ้าทอ หัตถกรรม  ขนบธรรมเนียม 2. พื้นที่สร้างสรรค์ ขอเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบรรจุยุทธศาสตร์เรื่องนี้เป็นวาระของจังหวัด ผลักดันให้มีสถานที่ ผลิตภัณฑ์ และการท่องเที่ยวสร้างสรรค์  และรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นกลไกผลักดัน

ระดับสากล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะต้องทำทุนทางวัฒนธรรมขยายไประดับสากล โดยให้มีหน่วยงาน Content ขึ้นมาหนึ่งหน่วยงาน โดยเป็น Content ดั้งเดิมภาพยนตร์ ทีวี หนังสือ และ ดิจิตัล Content  คือ เกมส์ แอนนิเมชั่น ต้องผนวกกับเอกชน เพื่อนำรายได้จากทุนวัฒนธรรมกลับเข้ามาประเทศ ต้องวางเป้าหมายการเป็นมหาอำนาจด้าน Soft Power โดย นายกรัฐมนตรี หรือ รองนายกรัฐมนตรีทำเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญดึงทุกกระทรวงมาทำงานร่วมกัน

มล.ชโยทิต กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมไทยสร้างชาติ อภิปรายนโยบายเศรษฐกิจ เนื้อหาตอนหนึ่งระบุ  การลงทุนในประเทศอยากผลักดันระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค โดยภาคเหนือสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้านนา และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกอัจฉริยะ

สุวัฒน์ จิราพันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย จากบทบาทฐานะประธานคณะทำงานติดตามการบังคับใช้ พรก.ป้องกันและปราบปรามการอาชญกรรมทางคอมพิวเตอร์ พบว่า การดำเนินงานตาม พรก.ทำได้ไม่เต็มที่ ขอให้รัฐบาลเร่งรัด ทั้งงบประมาณบุคลากร และควรสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับประชาชน โดยสนับสนุนอินฟลูเอ็นเซอร์ทำ Content เรื่องนี้ สอดส่องเจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้ขายข้อมูลให้มิจฉาชีพ

 
ฝ่ายค้านหวั่นนโยบายตีโจทย์ผิด

อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  อภิปราย นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ทักษะ Soft Power ระบุรัฐบาล ตีความครอบครัวตามระบบทะเบียน ซึ่งมี 20 ล้านครอบครัว สร้างงานได้ 20 ล้านตำแหน่ง เป็นการเริ่มนโยบายโดยตีโจทย์ผิด  เมื่อเทียบตัวเลขแรงงานในภาคเศรษฐกิจสร้างสรรค์กับ สหรัฐ อังกฤษ เกาหลี ยังน้อยกว่าแรงงานในไทยที่ตั้งไว้ 20 ล้านคน หลักคิด Soft Power  คือเพิ่มมูลค่า ทำน้อยได้มาก ให้ความสำคัญต้นแบบ แล้วทำซ้ำ Soft Power เป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การฝึกอบรมทักษะระดับสูงต้องทำผ่าน Digital Technology ไม่ใช่การฝึกอบรมผ่านระบบบออนไลน์ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งยังไม่รู้ว่าฝึกแล้วจะไปทำอะไรได้ แต่จะเป็นช่องทางให้บริษัทฝึกอบรมมีรายได้

อภิสิทธิ์ ระบุว่า บริบทของนโยบายเกิดจากวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาไทย เกรงว่าเป็นการแปลงร่างโครงการ OTOP ผสมกับผลิตภัณฑ์ของกระทรวงวัฒนธรรม  ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องการหาตลาดรองรับ นอกจากนี้ยังเป็นห่วงเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนทำงานสร้างสรรค์  ประเทศไทยมี พรบ.ที่ขัดขวางระดับสติปัญญาในการแสดงออกด้วยเหตุผลศีลธรรม ความมั่นคง  นอกจากนี้การส่งเสริมสวัสดิการคนทำงานสร้างสรรค์ ปัจจุบันมี 9.8 แสนคน แต่แรงงานเหล่านี้ไม่ได้รับการคุ้มครองหรือมีสวัสดิการรองรับ Soft Power ที่พูดในปัจจุบันยังเป็นแค่ทรัพยากรวัฒนธรรม แต่การปรุงแต่งให้มีมูลค่าเป็นต้องทำกัน หน้าตาองค์กร THACCA ที่จะมารับผิดชอบจะทำอย่างไร กองทุนฯ ที่มีอยู่แล้วและจะมีใหม่จะทำอย่างไร 

 
ส.ส.ฝั่งรัฐบาลหนุนตั้ง THACCA ดึงเอกชนร่วม

สกุณา สาระนันท์  ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย  อภิปรายนโยบายเกษตร ระบุ 1 ในแนวทางสร้างรายได้ใหม่ภาคเกษตร ต้องยกระดับการเกษตร ให้เป็น Soft Power ด้านการเกษตร The Power of Biodiversity  ไม่จำกัดการเกษตรเป็นแค่เรื่องสินค้าเกษตร เนื่องจากประเทศไทยมีความโดดเด่น เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น ต้นครามจากชนบทจะเปลี่ยนเป็นของใช้ในโรงแรมหรู ผักพื้นถิ่นจะเป็นเมนูอาหารในโรงแรม  สีและกลิ่นจะเปลี่ยนไปสู่สินค้าแฟชั่น จากชนบท ความสำเร็จจะเกิดได้รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพเพื่อบูรณาการข้ามกระทรวง งบประมาณเพียงพอ มีเมืองต้นแบบ เชื่อ 3 ปีรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น

ปิยะนุช ยินดีสุข ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวว่า ประเด็น Soft power เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนสามารถมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ โดยใช้ Concept  Amazing 5F and More ยกตัวอย่างกรณีกระแส ซีรี่ย์ King The Land

จิราพร สินธุไพร ส.ส. พรรคเพื่อไทย อภิปราย นโยบายส่งเสริม Soft Power  ว่า ไม่ควรมองในมิติเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างเดียวแต่ควรมองอำนาจในการโน้มน้าวในการใช้สินค้าของคนไทย คือ การสร้างคน การทำให้สินค้าออกไปตลาดโลก ซึ่งจำเป็นต้องใช้การต่างประเทศด้วย  ทั้งนี้เห็นด้วยนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ซึ่งบางท่านอาจมองคิดใหญ่เกินไปกับการสร้างคน 20 ล้านคน แต่โดยแท้จริงคือ เรื่องนี้ต้องคิดใหญ่เพราะรัฐบาลต้องการใช้นโยบายเพื่อยกระดับประเทศ จากประเทศรายได้ปานกลางเป็นประเทศรายได้สูง จะเป็นโอกาสให้คน 1 คนจาก 1 ครอบครัวได้รับการอบรมฟรีตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ การจัดอบรมไม่ต้องใช้งบเพราะมีอยู่แล้ว ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน โดยรัฐแค่เชื่อมโยงสร้างเครือข่ายในการสร้างความสนใจและเชื่อมตลาดเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ต้องทำควบคู่กับการพัฒนาอุตสาหกรรม  Soft Power  ทั้งนี้เห็นด้วยกับการตั้ง  THACCA (Thailand Creative Content Agency) เพื่อผลักดันในเรื่องนี้เพราะที่ผ่านมา การให้ระบบราชการผลักดันไม่ได้ ซึ่งการมี  THACCA จะมีเอกชนร่วมผลักดันด้วย ทั้งแก้กฎหมายที่เป็นปัญหาและระบบงบประมาณ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องใช้งบมหาศาล โดยสามารถส่งเสริมภาคเอกชนมาลงทุน ภาครัฐใช้งบฯ ชี้นำ การลงทุนให้เป็นเรื่องเอกชน และจำเป็นต้องใช้ พรบ.จัดตั้ง องค์กรนี้ขึ้นมา เพื่อไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการเปลี่ยนรัฐบาล เรื่องนี้พรรคไทยรักไทยสร้างรากฐานเอาไว้ตั้งแต่ทั้งเรื่อง TCDC  โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก โครงการเมืองแฟชั่น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

ทั้งหมดนี้ คือ เนื้อหาจากการสรุปประเด็นสำคัญจากการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในวันแรก ที่พอจะทำให้มองเห็นแนวโน้มของนโยบาย Soft Power   ภายใต้รัฐบาลเศรษฐา 1